วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี นอกจากจะเป็นวันพระราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ยังได้รับการยอมรับในระดับสากลให้เป็น วันดินโลก (World Soil Day) เพื่อรำลึกถึงพระอัจฉริยภาพของพระองค์ในการพัฒนาดินและเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน
การสร้างฐานรากเกษตรไทย พระมหากรุณาธิคุณ “ด้านดิน”
หนึ่งในโครงการที่สำคัญซึ่งสะท้อนถึงพระวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาดิน คือ โครงการแกล้งดิน ซึ่งเป็นการวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรในหลายพื้นที่ พระองค์ทรงริเริ่มวิธีการแก้ไขด้วยกระบวนการเพิ่มออกซิเจนในดิน ทำให้สามารถปรับสภาพดินให้เหมาะสมต่อการเพาะปลูกได้
นอกจากนี้ พระองค์ยังพระราชทานแนวทาง การใช้ปุ๋ยธรรมชาติ และ การปลูกพืชหมุนเวียน เพื่อฟื้นฟูดินและรักษาความอุดมสมบูรณ์ในระยะยาว แนวคิดนี้ไม่เพียงช่วยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร แต่ยังส่งเสริมการเกษตรที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
“เศรษฐกิจพอเพียง” แนวทางเกษตรกรไทยสู่ความยั่งยืน
แนวคิด เศรษฐกิจพอเพียง ที่พระองค์พระราชทานแก่พสกนิกร เป็นหลักปรัชญาที่เกษตรกรสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการทำเกษตรแบบผสมผสาน การจัดการทรัพยากรน้ำอย่างคุ้มค่า หรือการผลิตเพื่อพึ่งพาตนเองก่อนเข้าสู่ตลาด แนวทางนี้ช่วยให้เกษตรกรไทยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
“วันดินโลก” พระราชกรณียกิจที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ยกย่องพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 9 ในฐานะ “นักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม” และกำหนดให้วันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันดินโลก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 เพื่อเผยแพร่แนวทางการพัฒนาดินและเกษตรกรรมแบบยั่งยืนตามรอยพระองค์
ร่วมสืบสานพระราชปณิธานเพื่ออนาคตเกษตรไทย
เนื่องในโอกาสวันดินโลกปีนี้ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายแห่งได้จัดกิจกรรมเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของดินในภาคการเกษตร รวมถึงการให้ความรู้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงดินและการทำเกษตรอย่างยั่งยืน
ประชาชนและเกษตรกรสามารถน้อมนำแนวทางของพระองค์มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยกันรักษาทรัพยากรดินให้คงอยู่สำหรับคนรุ่นหลัง และร่วมสร้างระบบเกษตรกรรมไทยที่มั่นคงยิ่งขึ้น
“ในหลวงรัชกาลที่ 9 จะทรงสถิตในใจปวงชนชาวไทยตราบนิจนิรันดร์”