ศิษยานุศิษย์ร่วมพิธีทำบุญอายุวัฒนมงคล วันคล้ายวันเกิดครบรอบ 71 ปี พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต ติกฺขปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ณ พุทธสถานลพบุรีศรีสุวรรณภูมิ อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี
วันที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลา 10:00 น. ที่ พุทธสถานลพบุรีศรีสุวรรณภูมิ ตำบลห้วยโป่ง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ว่าที่ร้อยตรีทรงพล แป้นแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคลครบ 71 ปีพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมืองลพบุรี โดยมี ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า คหบดี รวมทั้งศิษย์ยานุศิษย์ พุทธศาสนิกชนที่เคารพนับถือหลวงพ่ออลงกต ร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก
ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นพิธีสงฆ์ พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต ได้มอบโล่ และเงินรางวัล ให้กับนักเรียน ของโรงเรียนต่าง ๆ ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดขับเสภา การสวดมนต์ และวาดภาพ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นในช่วงวันที่ 5-9 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ พุทธสถานลพบุรีศรีสุวรรณสุวรรณภูมิ แห่งนี้ และนอกจากนี้พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต ยังมีเมตตาให้คณะศิษยานุศิษย์รวมทั้งพุทธศาสนิกชน ที่มาร่วมงานได้แสดงมุทิตาสักการะ และร่วมทอดผ้าป่า เพื่อสมทบทุนก่อสร้าง พระมหาธาตุเจดีย์พุทธมณฑลศรีสุวรรณภูมิ อีกด้วย
ท่านเจ้าคุณพระราชวิสุทธิประชานาถ (อลงกต ติกฺขปญฺโญ) เกิดวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2496 อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี บิดาของท่านเป็นข้าราชการกรมทางหลวง ส่วนมารดาได้จากไปเมื่อท่านมีอายุเพียง 3 ขวบ จากนั้นท่านได้รับการดูแลจากคุณย่า โดยใช้ชีวิตอย่างมีระเบียบวินัยเคร่งครัด ร่วมกับพี่น้องอีก 5 คน เริ่มเข้าเรียนที่โรงเรียนโพธารามคุณารักษ์วิทยาคาร มัธยมศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ ต่อมาได้ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน สาขาวิศกรรมศาสตร์ สำเร็จการศึกษา ระดับปริญญาตรีจากนั้นได้ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย สาขาวิศกรรมเครื่องกลจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท แล้วสมัครเข้าทำงานที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ทำงานอยู่ไม่นานก็เบื่อทางโลกจึงลาออกมุ่งศึกษาทางธรรม โดยอุปสมบทที่วัดบวรนิเวศเมื่อปี พ.ศ. 2522 สังกัดธรรมยุติกนิกาย ใน พ.ศ. 2529 ได้ย้ายมาอุปสมบท และจำพรรษาสังกัดมหานิกายณ วัดเขาสมโภชน์ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี และเริ่มศึกษาทางธรรมอย่างจริงจังโดยออกธุดงค์ ไปตามเขาและถ้ำต่างๆ หลายจังหวัด เป็นระยะเวลาประมาณ 2 – 3 ปี จนธุดงค์กลับมาที่จังหวัดลพบุรี ใน ปี พ.ศ. 2531 พระเถรานุเถระได้ขอให้มาจำพรรษาที่วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีเจ้าอาวาส และได้ตั้งเป็นเจ้าอาวาสมาจนถึงปัจจุบัน
ต่อมาได้มีโอกาสไปเยี่ยมผู้ป่วยโรคเอดส์ ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ฯ พบว่าผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ถูกทอดทิ้งไม่มีญาติขาดคนคอยดูแลจึงได้ช่วยดูแล มีผู้ป่วยหลายคนต้องเสียชีวิตในอ้อมแขนของท่าน เมื่อกลับมายังวัดพระบาทน้ำพุ จึงมีความคิดว่า ควรหาสถานที่สำหรับเป็นที่พักพิงของผู้ป่วย โรคเอดส์ในระยะสุดท้ายของชีวิตสักแห่งหนึ่ง ประกอบกับองค์กรพุทธศาสนิกสัมพันธ์เพื่อสังคม ( พ.ส.ส. ) มีแนวคิดเช่นเดียว จึงได้ร่วมจัดตั้งโครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ บ้านพักผู้ป่วยเอดส์ในระยะสุดท้ายขึ้นในปี พ.ศ. 2535 โดยระดมทรัพยากรต่าง ๆ ที่มีอยู่เท่าที่จะหาได้จัดสร้างเรือนพักสำหรับผู้ป่วย โดยขอรับการสนับสนุนจากองค์กรต่าง ๆ จัดตั้งผู้รับบริจาคหาทุนทรัพย์ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับผู้ป่วยพร้อมทั้งได้ออกแสดงพระธรรมเทศนาไปยังสถาน ที่ ต่าง ๆ เพื่อหาทุนทรัพย์สมทบเป็นค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าค่ายา ค่าของเครื่องใช้ส่วนตัวของผู้ป่วย ฯลฯ นับว่าเป็นผู้ส่งเสริมให้กับสังคมมีความเสียสละเอื้ออาทรเพื่อมนุษย์ ปลูกจิตสำนึกให้มีความเมตตา และมนุษยธรรม อันนำไปสู่ความคิดตามวิถีทางพระพุทธศาสนาโดยมีพระสงฆ์ แพทย์ พยาบาลอาสาสมัครเป็นผู้ดูแลผู้ป่วยร่วมกันช่วยควบคุมปริมาณการเผยแพร่โรค เอดส์ ช่วยให้ชุมชนไม่แสดงความรังเกียจ นอกจากนี้ยังได้จัดสาธารณกุศลสงเคราะห์ เช่น ที่พักอาศัย อาหาร เครื่องนุงห่ม และยารักษาโรค ให้กับผู้ป่วยทุกคน แม้กระทั่งการจัดการฌาปนกิจศพอีกด้วย
ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี