การเรียนรู้นอกห้องเรียนหรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ “ทัศนศึกษา” ถือเป็นโอกาสที่นักเรียนจะได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ นอกเหนือจากบทเรียนในห้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้จากสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ศูนย์วิจัยธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งการเยี่ยมชมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและความรู้รอบตัวให้นักเรียนได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม นักเรียนบางกลุ่ม โดยเฉพาะนักเรียนที่มาจากครอบครัวที่ขาดแคลนทางการเงินหรืออยู่ในพื้นที่ห่างไกล กลับไม่มีโอกาสได้รับประสบการณ์เช่นนี้เท่าที่ควร ด้วยเหตุผลทางการเงินที่ไม่เพียงพอ งบประมาณของโรงเรียนที่จำกัด หรือปัญหาด้านการเดินทางที่ไกลจากแหล่งเรียนรู้สำคัญ
ครูพีช หรือคุณเอื้ออังกูร เอี่ยมประภาศ อดีตครูอัตราจ้าง โรงเรียนประถมศึกษาในจังหวัดลพบุรี ปัจจุบันเป็นบรรณาธิการบริหาร Lopburi Today ได้เล่าให้ทีมข่าวฟังถึงประสบการณ์ในฐานะครูที่เคยนำเด็ก ๆ ไปทัศนศึกษานอกห้องเรียนว่า นักเรียนส่วนใหญ่ที่ไม่เคยมีโอกาสได้ออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกับครอบครัวจะตื่นเต้นและดีใจมากเมื่อรู้ว่าพวกเขาจะได้ไปทัศนศึกษา ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเปิดโอกาสในการเรียนรู้แบบนี้
หลายโรงเรียนและองค์กรการกุศลต่างมองเห็นปัญหานี้ จึงได้จัดทำโครงการเพื่อช่วยสนับสนุนนักเรียนที่ขาดแคลน โดยการหาทุนสนับสนุนเพื่อให้นักเรียนเหล่านี้ได้เข้าร่วมทัศนศึกษา หรือแม้กระทั่งสร้างทัศนศึกษาแบบเสมือนจริง (Virtual Field Trip) ที่ช่วยให้นักเรียนได้สัมผัสกับการเรียนรู้นอกห้องเรียนผ่านเทคโนโลยี ซึ่งสามารถเดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์ได้ เช่น การสำรวจพิพิธภัณฑ์ ศึกษาประวัติศาสตร์ หรือเข้าเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางจริง เช่น เว็บไซต์พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ Smart Museum พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้มิวเซียมสยาม หรือแม้พิพิธภัณฑ์ที่อยู่ต่างประเทศ เป็นต้น
เพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างยั่งยืน โรงเรียนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนากิจกรรมทัศนศึกษาเสมือนจริง นอกจากนี้ยังควรมีการประสานความร่วมมือกับองค์กรภายนอกที่สามารถช่วยสนับสนุนการเดินทางของนักเรียนกลุ่มที่ขาดโอกาส ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชนหรือภาครัฐบาล เพื่อให้มั่นใจว่าเด็กทุกคนจะได้รับโอกาสเรียนรู้ที่เท่าเทียม
ทั้งนี้ ยังมีแนวทางการใช้ทรัพยากรในชุมชน เช่น การเยี่ยมชมแหล่งเรียนรู้ในพื้นที่ใกล้เคียงที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณสูง นับว่าเป็นอีกทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้นอกห้องเรียนโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไกล