ทางเลือกผู้ประกันตน หลังลาออกจากงานหรือเกษียณอายุ

เมื่อเข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่ หลายคนได้รับโบนัสก้อนใหญ่พร้อมกับโอกาสในการวางแผนอนาคต หลายบริษัทมอบโอกาสเออร์รี่รีไทร์ให้พนักงาน ขณะที่บางรายตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อแสวงหาชีวิตที่อิสระมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้มาพร้อมกับคำถามเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่ควรรักษาไว้ เช่น สิทธิประกันสังคม ซึ่งมีผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาวของผู้ที่เคยอยู่ในระบบการจ้างงาน

ทำความเข้าใจกับสิทธิประกันสังคม

ประกันสังคมเป็นระบบที่ให้ความคุ้มครองในหลายด้าน เช่น สุขภาพ การคลอดบุตร การชราภาพ และการเสียชีวิต ผู้ที่เคยอยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 ซึ่งเป็นกลุ่มลูกจ้างของบริษัทเอกชน จะได้รับสิทธิประโยชน์หลากหลายจากการจ่ายเงินสมทบทั้งจากตัวเอง นายจ้าง และรัฐบาล แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องลาออกจากงานหรือเกษียณอายุ คำถามที่เกิดขึ้นคือ “ควรต่อสิทธิประกันสังคมหรือไม่?”

ทางเลือกหลังลาออก

Financial analyst with document in his hands reading information on computer screen

เมื่อออกจากงานแล้ว คุณยังสามารถเลือกที่จะเป็นผู้ประกันตนต่อในรูปแบบที่เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการของคุณเอง ได้แก่:

1. การต่อสิทธิในมาตรา 39

เหมาะสำหรับผู้ที่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และต้องการคุ้มครองด้านสุขภาพและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ต่อไป

เงื่อนไข:

  • ต้องสมัครภายใน 6 เดือนหลังจากลาออก
  • มีประวัติการจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 12 เดือน

สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ:

  • ค่ารักษาพยาบาล
  • เงินสงเคราะห์การคลอดบุตร
  • เงินทุพพลภาพ
  • เงินชราภาพ
  • เงินค่าทำศพ

ค่าใช้จ่าย:

  • จ่ายเงินสมทบเดือนละ 432 บาท (อัตราปัจจุบัน)

2. การสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40

เหมาะสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือผู้ที่ต้องการคุ้มครองในระดับเบื้องต้นด้วยค่าใช้จ่ายที่ยืดหยุ่น

เงื่อนไข:

  • สมัครได้ทุกช่วงเวลา

สิทธิประโยชน์: ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจที่เลือก เช่น

  • ค่ารักษาพยาบาลในบางกรณี
  • เงินสงเคราะห์บุตร
  • เงินชราภาพ

ค่าใช้จ่าย:

  • เริ่มต้นที่ 70-300 บาทต่อเดือน

เงินทดแทนกรณีว่างงาน

สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 หากลาออกจากงาน คุณยังสามารถรับเงินทดแทนกรณีว่างงานได้ในบางกรณี:

เงื่อนไข:

  • ลาออกเองจะได้รับเงินทดแทนในอัตรา 30% ของค่าจ้างเฉลี่ย
  • ระยะเวลาการรับเงิน: สูงสุด 90 วัน
  • ต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานและรายงานตัวตามกำหนด

หมายเหตุ: หากถูกเลิกจ้าง จะได้รับเงินทดแทนในอัตรา 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย เป็นระยะเวลาสูงสุด 180 วัน

เงินชราภาพ

senior couple say Hi look at camera

เงินชราภาพเป็นสิทธิประโยชน์ที่สำคัญเมื่อคุณเข้าสู่วัยเกษียณ โดยจะมีรูปแบบการรับดังนี้:

1. บำเหน็จชราภาพ:

  • กรณีจ่ายเงินสมทบไม่ถึง 180 เดือน (15 ปี)
  • รับเป็นเงินก้อนครั้งเดียว

2. บำนาญชราภาพ:

  • กรณีจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 180 เดือนขึ้นไป
  • รับเงินรายเดือนในอัตรา 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย และเพิ่มอีก 1.5% ต่อทุก 12 เดือนที่จ่ายสมทบเกิน 180 เดือน

เลือกอย่างไรให้เหมาะสม?

  1. ประเมินความต้องการ หากคุณต้องการการคุ้มครองด้านสุขภาพและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ แบบครบถ้วน มาตรา 39 จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่หากต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายและต้องการคุ้มครองพื้นฐาน มาตรา 40 ก็เพียงพอ
  2. คำนึงถึงงบประมาณ ค่าจ่ายสมทบในแต่ละเดือนของมาตรา 39 จะสูงกว่า แต่มาพร้อมสิทธิประโยชน์ที่มากกว่า ขณะที่มาตรา 40 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในเรื่องค่าใช้จ่าย
  3. ตรวจสอบแผนชีวิตระยะยาว หากคุณมีแผนที่จะพักผ่อนในวัยเกษียณหรือทำงานอิสระต่อ การรักษาสิทธิประกันสังคมจะช่วยเพิ่มความมั่นคงในระยะยาว

ผู้ที่สนใจต่อสิทธิสามารถติดต่อสำนักงานประกันสังคมใกล้บ้านหรือดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างสะดวก สำหรับผู้ที่ยังลังเล การปรึกษาเจ้าหน้าที่หรือผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลที่ชัดเจนและเหมาะสมกับสถานการณ์มากขึ้น

การตัดสินใจเกี่ยวกับสิทธิประกันสังคมหลังลาออกจากงานหรือเกษียณอายุเป็นเรื่องสำคัญ การเลือกทางที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองต่อเนื่อง แต่ยังช่วยสร้างความมั่นคงให้ชีวิตในระยะยาว อย่าลืมพิจารณาทางเลือกทั้งหมดอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ เพื่อประโยชน์สูงสุดของคุณเอง

อ่านข่าว  จิตอาสาพัฒนาแม่น้ำลพบุรี เก็บผักตบชวาและวัชพืช

พื้นที่โฆษณา

สอบถามรายละเอียด

โทรศัพท์ 081-8935498
อีเมล [email protected]

ข่าวในกระแส

พื้นที่โฆษณา

สอบถามรายละเอียด

โทรศัพท์ 081-8935498
อีเมล [email protected]

เสียงใหม่…คัดสรรข่าวเพื่อคุณ

สำนักข่าว Lopburi Today ลพบุรีทูเดย์

139 หมู่ 2 ต.ป่าตาล อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี 15000

โทรศัพท์ 081-8935498

กองบรรณาธิการ : [email protected]

ติดต่อโฆษณา : [email protected]

© 2024 Lopburi Today | ลพบุรีทูเดย์  All Right Revised.