นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าโลกอาจเผชิญกับ พายุสุริยะ ที่จะส่งผลกระทบต่อเทคโนโลยีและระบบสื่อสารในไม่ช้านี้ พายุสุริยะคือปรากฏการณ์ที่เกิดจากการระเบิดของพลังงานจากดวงอาทิตย์ ซึ่งปล่อยพลาสมาและอนุภาคพลังงานสูงมาสู่โลก โดยอาจทำให้ระบบไฟฟ้า การสื่อสาร และดาวเทียมเกิดการรบกวน รวมถึงสร้างผลกระทบทางเทคโนโลยีในวงกว้าง
พายุสุริยะคืออะไร?
พายุสุริยะเป็นผลมาจากการปะทุของดวงอาทิตย์ โดยสามารถเกิดขึ้นได้จากสองปรากฏการณ์หลัก คือ การระเบิดมวลโคโรนา (CME) ซึ่งเป็นการปล่อยพลาสมาและสนามแม่เหล็กไฟฟ้าสู่อวกาศ และ โซลาร์แฟลร์ ที่เป็นการระเบิดของรังสีเอกซ์และรังสีอัลตราไวโอเลตที่มีพลังงานสูง
อนุภาคจากพายุสุริยะเมื่อเดินทางมาถึงโลกจะชนกับสนามแม่เหล็กโลก ซึ่งอาจทำให้เกิดการรบกวนในหลายด้าน เช่น การสื่อสารผ่านวิทยุ การนำทาง GPS และระบบไฟฟ้าในบางพื้นที่ โดยเฉพาะพายุสุริยะที่รุนแรงระดับ G4 หรือ G5 อาจทำให้ระบบไฟฟ้าในพื้นที่กว้างล่มได้นานหลายชั่วโมงหรือหลายวัน
ความรุนแรงและผลกระทบที่ต้องรู้
พายุสุริยะถูกจัดระดับความรุนแรงตั้งแต่ G1 (เล็กน้อย) ถึง G5 (รุนแรงมาก) โดยระดับความรุนแรงมากจะส่งผลกระทบต่อเครือข่ายพลังงานไฟฟ้า ระบบดาวเทียม และการสื่อสารทางวิทยุมากขึ้น นอกจากนี้ โซลาร์แฟลร์ ที่เกิดขึ้นพร้อมกับพายุสุริยะก็สามารถรบกวนสัญญาณวิทยุและระบบดาวเทียมได้อย่างรุนแรงในชั้นบรรยากาศโลกชั้นบน
มาตรการเตรียมพร้อมรับมือ
เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับพายุสุริยะที่อาจเกิดขึ้น หน่วยงานต่างๆ เช่น ศูนย์พยากรณ์อวกาศ NOAA ได้พัฒนาระบบเฝ้าระวังพายุสุริยะอย่างใกล้ชิด พร้อมกับการแจ้งเตือนล่วงหน้าไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถเตรียมความพร้อมสำหรับการรับมือ เช่น การป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเครือข่ายไฟฟ้าและระบบดาวเทียม
ประชาชนทั่วไปสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากมีการแจ้งเตือนพายุสุริยะที่รุนแรง เช่น การเลี่ยงใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงที่พายุสุริยะเข้าถึง การติดตามข้อมูลข่าวสาร และการเตรียมความพร้อมทางเทคโนโลยีหากเกิดการหยุดชะงักของระบบสื่อสารและไฟฟ้า
แม้ว่าพายุสุริยะจะดูน่ากังวล แต่ด้วยการเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมอย่างรอบคอบ ผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและเทคโนโลยีสามารถลดลงได้อย่างมาก
ข้อมูล : ศูนย์พยากรณ์อวกาศ NOAA และข้อมูลจากนักวิทยาศาสตร์อวกาศ